ข้อมูลพื้นฐาน
ส่วนที่ 1 สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน
    1. ด้านกายภาพ
       1.1 ที่ตั้งของหมู่บ้านหรือชุมชนหรือตำบล
    ประวัติความเป็นมาของตำบลบ่อดาน เล่าขานสืบเนื่องกันมาตั้งแต่สมัยศรีวิชัย กล่าวกันว่าในสมัยนั้นมีเจ้าเมืองเป็นผู้ครองเมือง ดูแลไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน พื้นที่ตำบลบ่อดาน ในขณะนั้นอยู่ในความปกครองของเจ้าเมืองพัทลุง ในสมัยนั้นแหล่งน้ำเพื่อการบริโภค และแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรแทบจะไม่มี เจ้าเมืองพัทลุงมีความเห็นว่าน้ำกินน้ำใช้มีความสำคัญต่อการอยู่ของประชาราษฎร์ หาไม่แล้วจะได้รับความเดือดร้อน ปัญหาต่าง ๆ จะตามมาเนื่องจากความเป็นอยู่จะแร้นแค้น มีรายได้น้อย ดังนั้นเจ้าเมืองพัทลุง จึงสั่งการ ให้ข้าราชบริพาร จัดหาและจัดสร้างแหล่งน้ำเพื่อให้ราษฎรได้ใช้น้ำแก้ปัญหาความเดือดร้อน เมื่อเริ่มสร้างก็ได้เกณฑ์ประชาชนขุดเป็นสระน้ำจนสำเร็จ แต่ถึงช่วงฤดูแล้งน้ำจะแห้งขอด ความทราบถึงเจ้าเมืองพัทลุงจึงให้ ข้าราชบริพาร สร้างแหล่งน้ำขึ้นมาใหม่ให้มีน้ำใช้ได้ตลอดทั้งปี โดยตกลงกันขุดเป็นบ่อน้ำตื้นแต่เนื่องจาก ตำบลบ่อดานด้านฝั่งทิศตะวันออกสภาพดินเป็นดินทราย การขุดบ่อน้ำนั้นทำได้ลำบาก เนื่องจากปัญหาเรื่องดินไม่ให้พังจึงได้ใช้ไม้กระดานแผ่นใหญ่ มาทำเป็นเบ้าเพื่อกั้นดินไม่ให้พัง จนเป็นผลสำเร็จ และน้ำก็พุ่งจากดินไม่ขาดทั้ง ๆ ที่เป็นบ่อน้ำตื้นลึกประมาณ 4-5 เมตร จึงเรียกบริเวณนั้นว่า บ่อน้ำบาดาล เพราะมีน้ำพุ่งมาจากใต้ดิน และจะไม่แห้งในช่วงฤดูแล้ง มีราษฎรบางกลุ่มเรียกบ่อน้ำนั้นว่า บ่อน้ำกระดาน เพราะใช้ ไม้กระดานมาทำเป็นเบ้าป้องกันดินพัง คำเรียกว่าน้ำกระดาน หรือบ่อน้ำบาดาล นานวันล่วงไปก็ค่อย ๆ เพี้ยนไปเป็นบ่อดาน
    จนถึงปัจจุบันเป็นตำบลบ่อดาน ตำบลบ่อดาน ได้รับการยกฐานะจากสภาตำบลเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลตามประกาศ กระทรวงมหาดไทย และได้ลงใน ราชกิจจานุเบกษา ฉบับทั่วไป เล่มที่ 113 ตอนที่ 9 ง ลงวันที่ 30 มกราคม 2539 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2539
    ที่ตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อดาน ตั้งอยู่ถนนสายเขาแดง - ระโนด ตำบลบ่อดาน อำเภอ สทิงพระ จังหวัดสงขลา ห่างจากที่ว่าการอำเภอสทิงพระ ประมาณ 5 กิโลเมตร ห่างจากจังหวัดสงขลา ประมาณ 50 กิโลเมตร ทางทิศเหนือของตัวจังหวัด ใช้เวลาการเดินทาง ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที




ประวัติความเป็นมาของตำบลบ่อดาน เล่าขานสืบเนื่องกันมาตั้งแต่สมัยศรีวิชัย กล่าวกันว่าในสมัยนั้นมีเจ้าเมืองเป็นผู้ครองเมือง ดูแลไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน พื้นที่ตำบลบ่อดาน ในขณะนั้นอยู่ในความปกครองของเจ้าเมืองพัทลุง ในสมัยนั้นแหล่งน้ำเพื่อการบริโภค และแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรแทบจะไม่มี เจ้าเมืองพัทลุงมีความเห็นว่าน้ำกินน้ำใช้มีความสำคัญต่อการอยู่ของประชาราษฎร์ หาไม่แล้วจะได้รับความเดือดร้อน ปัญหาต่าง ๆ จะตามมาเนื่องจากความเป็นอยู่จะแร้นแค้น มีรายได้น้อย ดังนั้นเจ้าเมืองพัทลุง จึงสั่งการให้ข้าราชบริพาร จัดหาและจัดสร้างแหล่งน้ำเพื่อให้ราษฎร์ได้ใช้น้ำแก้ปัญหาความเดือดร้อน เมื่อเริ่มสร้างก็ได้เกณฑ์ประชาชนขุดเป็นสระน้ำจนสำเร็จ แต่ถึงช่วงฤดูแล้วน้ำจะแห้งขอด ความทราบถึงเจ้าเมืองพัทลุงจึงให้ข้าราชบริพาร สร้างแหล่งน้ำขึ้นมาใหม่ให้มีน้ำใช้ได้ตลอดทั้งปี โดยตกลงกันขุดเป็นบ่อน้ำตื้นแต่เนื่องจาก ตำบลบ่อดานด้านฝั่งทิศตะวันออกสภาพดินเป็นดินทราย การขุดบ่อน้ำนั้นทำได้ลำบาก เนื่องจากปัญหาเรื่องดินไม่ให้พังจึงได้ใช้ไม้กระดานแผ่นใหญ่ มาทำเป็นเบ้าเพื่อกั้นดินไม่ให้พัง จนเป็นผลสำเร็จ และน้ำก็บุ่งจากดินไม่ขาดทั้ง ๆ ที่เป็นบ่อน้ำตื้นลึกเป็นประมาณ 4-5 เมตร จึงเรียกบริเวณนั้นว่า บ่อน้ำบาดาล เพราะใช้ ไม่กระดานมาทำเป็นเบ้าป้องกันดินพัง คำเรียกว่าน้ำดาน หรือบ่อน้ำนั้นว่า บ่อน้ำกระดาน เพราะใช้ ไม้กระดานมา ทำเป็นเบ้าป้องกันดินพัง คำเรียกว่าน้ำกระดาน หรือบ่อน้ำบาดาล นานวันล่วงไปก็ค่อย ๆ เพี้ยนไปเป็นบ่อดาน จนถึงปัจจุบันเป็นตำบลบ่อดาน ตำบลบ่อดาน ได้รับการยกฐานะจากสภาตำบลเป็นองค์การบริหาร ส่วนตำบลตามประกาศ กระทรวงมหาดไทย และได้ลงใน ราชกิจจานุเบกษา ฉบับทั่วไป เล่มที่ 113 ตอนที่ 9 ง ลงวันที่ 30 มกราคม 2539 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2539

วิสัยทัศน์การพัฒนา
ตำบลบ่อดาน มีความก้าวหน้า พัฒนาสู่ความเป็นสากล ประชาชนมีคุณภาพตามมาตรฐานภายในปี 2568
พันธกิจการพัฒนาท้องถิ่น
1. ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของครอบครัว และชุมชนให้เข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้
2. ส่งเสริมความพร้อมทางด้านโครงสร้างพื้นฐานของตำบล
3. ปรับปรุงระบบการเงินการคลัง และการบริหารให้สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่
4. พัฒนาระบบการศึกษา ของสถานที่ศึกษาให้มีคุณภาพ
5. พัฒนาการเมือง การบริหารจัดการ และแก้ไขปัญหาของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
6. ส่งเสริมการรักษาความเรียบร้อย ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
7. ส่งเสริมและอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม และการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น
8. อนุรักษ์ ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
9. สนับสนุนและสงเคราะห์ ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ป่วยเอดส์ ผู้ด้อยโอกาส ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
จุดมุ่งหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
1. การจัดระบบประปาหมู่บ้าน ปรับปรุงถนนหนทาง จัดการบริหารน้ำ และขยายไฟฟ้าเพื่อการเกษตรอย่างทั่วถึง
2. ส่งเสริมและสนับสนุน กลุ่มอาชีพต่างๆ เช่น กลุ่มเกษตรกร กลุ่มประมงพื้นบ้าน กลุ่มผู้นำองค์กรชุมชน และกลุ่มผู้นำสตรี เป็นต้น
3. สนับสนุนการศึกษา สื่อการเรียนการสอน และบุคลากรทางการศึกษาแบบครบวงจร และอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรม ให้เยาวชนมีส่วนร่วมทางศาสนาสู่คุณธรรมและจริยธรรม ส่งเสริมภูมิปัญญาประจำท้องถิ่น
4. ส่งเสริมการกีฬา และพัฒนาคุณภาพชีวิต สนับสนุนดูแลผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส ผู้ป่วยเอดส์ คนพิการ และเด็กกำพร้า
5. การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แก้ไขปัญหาเสื่อมโทรมและมลภาวะเพื่อคืนสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับชุมชน จะเร่งรัดการควบคุมมลพิษจากขยะ
6. การพัฒนาด้านองค์กรในการประสานงานกับหน่วยงานอื่น และให้สำนักงานมีเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทันสมัย
7. การพัฒนาด้านการเมือง การปกครอง และการรักษาความสงบเรียบร้อย สนับสนุนชรบ.และจัดอบรมอปพร.ส่งเสริมการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
8. การพัฒนาด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ส่งเสริมการรักษาความปลอดภัย สนับสนุนผลักดันให้มีรถพยาบาลบริการผู้ป่วยฉุกเฉิน และผู้ป่วยประสบอุบัติเหตุ ตลอด 24 ชั่วโมง